About Me

My photo
ใครคือ Kru Dr. Gan: ครูคนหนึ่งที่รักการสอนหนังสือ Kru Dr. Gan อยู่ที่ไหน: ไป ๆ มา ๆ ระหว่างเมืองไทยกับสหรัฐอเมริกา Kru Dr. Gan สอนวิชาอะไรบ้าง: ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม Kru Dr. Gan สอนใครบ้าง: น้อง ๆ มัธยมไปจนถึงนักศึกษาปริญญาเอก Kru Dr. Gan ทำอะไรอีกนอกจากสอน: ทำวิจัย เขียนบทความ ฯลฯ

Saturday, April 17, 2010

เรียนภาษาอังกฤษกับข่าว: ปิดน่านฟ้า The airspace is closed ตอนที่ 1

สวัสดีครับน้อง ๆ

วันนี้เรามาเรียนภาษาอังกฤษจากข่าวกันดีไหมครับ ฟัง ๆ ดูเหมือนไม่ค่อยน่าตื่นเต้นเท่าไร เรียนภาษาอังกฤษจากข่าว ที่ไหน ๆ เขาก็เรียนกัน แต่ครูอยากจะบอกน้อง ๆ ว่า สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้แหละครับ หากเรารู้จักสังเกต รู้จักเรียนรู้อย่างมีคุณค่า (อิอิ ไม่ถึงกับนางงาม งามอย่างมีคุณค่านะครับ) เราจะสามารถพัฒนาการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของเราไปได้ไกลทีเดียวกับ ไม่เชื่อ ลองมาดูหัวข้อวันนี้กันนะครับ

เขียนไว้ว่า "ปิดน่านฟ้า" ฟังดูน่ากลัว เกิดอะไรขึ้น แต่ใจเย็น ๆ ครับ ข่าวนี้มีที่มาที่ไป ไม่ต้องตกใจมาก

มา ขั้นแรก เราลองมาอ่าน ข่าวนี้ กันก่อนเลยครับ สด ๆ ร้อน ๆ เลย เกี่ยวกับภูเขาไฟลูกหนึ่งในประเทศไอซ์แลนด์ ได้ปะทุคุกรุ่นขึ้นมา จิ้มเบา ๆ นะครับ อิอิ ผลกระทบล่าสุดจากการปะทุของภูเขาไฟนี้ก็คือ การยกเลิกเที่ยวบินเข้าออกจากทวีปยุโรปมาได้สามวันแล้วล่ะครับ คือสนามบินไม่ได้ปิด แต่สายการบินประกาศหยุดบิน ลองไปอ่านดูก่อน เดี๋ยวเรามาคุยกันว่า เขารายงานว่าอะไรกันบ้าง เอ้าดูรูปประกอบด้วย


NOTE:
ครูอยากจะบอกว่า ถ้าน้อง ๆ มีเวลา ลองไปหาข่าวที่เกี่ยวกับภูเขาไฟลูกนี้และเหตุการณ์ปะทุของภูเขาไฟมาอ่านเพิ่มเติมนะครับ ครูคิดว่า มีโอกาสสูงที่เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน อาจจะนำมาออกเป็นข้อสอบ GAT ครั้งที่สองที่จะออกในเดือนกรกฏาคมนี้นะครับ เพราะว่าเนื้อหาของข่าวนี้สามารถนำมาเรียบเรียงใหม่ เขียนเป็นเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับการระเบิดปะทุของภูเขาไฟได้ หรืออาจจะเรียบเรียงเขียนถึงเหตุการณ์นี้ในแง่ของผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การเมืองต่าง ๆ ด้วยก็ยังได้เลยครับ คือเนื้อหาเขาครอบคลุมมาก และเป็นเรื่องราวทันเหตุการณ์ ดังนั้น รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหามนะครับ (ขอใช้สำนวนไทยหน่อยนุง อิอิ)

ครูจะขอเพิ่มเติมว่า เนื้อหาข่าวนี้ค่อนข้างยาวถึงยาวมาก ดังนั้นน้อง ๆ อาจจะใช้เวลาในการอ่านมากหน่อย แต่ก็อย่าท้อนะครับ ครูว่าถ้าน้อง ๆ อ่านข่าวนี้แล้วมีความเข้าใจในระดับดี โดยใช้เวลาประมาณ 20 ถึง 30 นาทีก็เก่งแล้วครับ เพราะข่าวนี้มีถึงเกือบ 1300 คำเลยทีเดียว

เอาล่ะ ตอนนี้ให้เวลาน้อง ๆ ไปอ่าน ไปทำความเข้าใจกับเนื้อหาข่าวก่อน เดี๋ยวตอนหน้า เราจะมาพูดถึงต้วข่าวกันนะครับ วันนี้ครูขอไปตรวจการบ้านเด็ก ๆ ก่อน ตอนหน้าเจอกันครับ

Tuesday, April 13, 2010

สวัสดีครับ สวัสดีวันสงกรานต์ วันปีใหม่ของไทยนะครับ

แหม ไม่ได้โพสต์ซะนาน พอดียุ่งมาก ๆ เลยครับ ขอโทษน้อง ๆ ด้วย วันนี้มาโพสต์กันซะหน่อยเนอะ

จริง ๆ เมื่อไม่นานมานี้ ครูก็กลับไปเยี่ยมเมืองไทยมาล่ะ โอ้โห อากาศร้อนเหมือนกัน แต่ก็ได้ทานอาหารอร่อยเยอะแยะไปหมด (ไม่ได้เห็นแก่กินนะ อิอิ)

อีกอย่าง ครูกลับไปช่วงที่เขาจัดสัปดาห์หนังสือแห่งชาติและหนังสือนานาชาติด้วย คนเยอะเหมือนกันนะครับ แต่สนุกดีครับ ครูได้หนังสือดี ๆ กลับมาตั้งเยอะ เดี๋ยวถ้ามีเวลา ครูจะเอารูปที่ไปถ่ายมาแบ่งให้น้อง ๆ ดูนะ คนมุงกันแต่ละซุ้ม แต่ละบูธ เยอะดีจริง ๆ ดีไม่ดี เราอาจจะเดินชนกันไปแล้วก็ได้เนอะ

วันนี้ครูจะมาพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับวัฒนธรรมร่วมสมัยของญี่ปุ่นสักหน่อย (contemporary Japanese culture) พอดีครูไปเจอบทความนี้มาครับ เกี่ยวกับสาวญี่ปุ่นที่มีวัฒธรรมกลุ่มเฉพาะของตัวเองแบบใหม่ จ้ิมเบา ๆ นะ อิอิ ครูว่ามันน่าสนใจดีเพราะทุนเดิม ครูก็มีความสนใจในวัฒนธรรมญี่ปุ่นอยู่แล้ว

มีรูปประกอบจากบทความมาให้ดูรูปหนึ่ง อ่านแล้วจะรู้ว่ารูปนี้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในบทความอย่างไร


ลอง ๆ อ่านบทความดูนะครับ อ่านง่าย ๆ ไม่ยากจนเกินไป ลองทำเวลาในการอ่านดู เหมือนเป็นการฝึกตัวเองในตอนทำข้อสอบ part reading ด้วย ลองใช้เวลาอ่านสัก 10 นาทีนะครับ อย่าให้เกินแล้วดูว่าอ่านรู้เรื่องหรือเปล่า

ลองวัดทักษะการอ่านบทความนี้ดูด้วยการตอบคำถามดังต่อไปนี้นะครับ (ครูตั้งคำถามในลักษณะให้น้อง ๆ ได้ใช้ทักษะในการอภิปรายกันด้วย ครูว่าการลองตอบคำถามในลักษณะนี้จะทำให้เราได้ใช้ทักษะมากมายเลยครับ รวมถึงทักษะการอ่าน ทักษะการวิเคราะห์ ทักษะการวิพากษ์วิจารณ์)

1. Name a couple of "reki-jo" mentioned in the article.

2. What does the term "reki-jo" mean? How is it related to the term "otaku"?

3. What can be implied about the Japanese making their identity known prior to the 1990s?

4. According to the text, what is the main difference between a virtual history girl and a real history girl?

5. What can be suggested about the "otaku" culture in the Japanese society?

อ่านแล้ว ตอบคำถามแล้ว อภิปรายกับเพื่อน ๆ กันไปแล้ว ตอนนี้รู้แล้วหรือยังครับว่าการอ่านมันก็ไม่ยากเกินไปนะ ครั้งหน้าครูจะนำบทความมาให้น้อง ๆ อ่านแล้วเล่นเกมส์ตอบคำถามกันอีก น้อง ๆ จะได้ฝึกทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์ ดีไหมครับ (ครูสัญญาว่าจะหาบทความที่อ่านแล้วสนุกและได้ความรู้มาให้น้อง ๆ นะ บทความน่าเบื่อครูจะไม่เอามา ครูจะเอาไว้อ่านเอง อิอิ)

อีกนิด ถ้าน้อง ๆ สังเกตจากเว็ปไซต์ที่ครูทำลิงค์ไป น้อง ๆ จะเห็นว่าสามารถเข้าไปฟังบทความนี้ได้ด้วย ลองเข้าไปฟังเลยครับ เป็นการฝึกทักษะการฟังไปด้วยนะ ครั้งต่อ ๆ ไป ครูจะพยายามหาคลิปมาให้น้อง ๆ ได้ฟังแล้วลองตอบคำถามกันด้วย เป็นการฝึกสำหรับน้อง ๆ คนไหนที่จะไปสอบพวก ไปในตัวเลยครับ

Tuesday, April 6, 2010

ภาษาอังกฤษในชีวิตจริง ๆ: She owns it vs She owes it to herself

ตอนที่ 2 ต่อนะครับ จากตอนที่ 1 ครูก้อเกือบลืมไปแล้วนะเนี่ย เลยต้องมาเขียนต่อให้จบ อิอิ

อย่างตอนที่แล้ว เราก็ทราบกันไปแล้วว่า she owns it หมายถึงอะไร ตอนนี้เรามาต่อกันดีกว่า

สำนวน she owes it to herself (หรืออยู่ในแบบทั่วไปเช่น one owes it to oneself) ใช้ในกรณีที่ แสดงความรับผิดชอบกับตัวเอง แบบว่าเป็นหน้าที่ เป็นความรับผิดชอบ เป็นสิ่งที่ควรกระทำ เพราะคำว่า owe ตรงนี้ แปลว่า เป็นหนี้ คือเอาง่าย ๆ ก็เข้าใจได้ว่า เธอเป็นหนี้กับตัวเธอเองนะที่จะทำ ...

ยกตัวอย่างอีกประโยคนะครับ เอามาจากเพลงด้วยล่ะ เพลงเนี้ย You Owe It to Yourself ของ Gino Vannelli จิ้มได้เลยครับ

You owe it to yourself to have your day.

You owe it to yourself to know for sure.

แบบว่า เราควรจะต้องมีวันของเรา เราควรจะต้องรู้ให้แน่ชัด (คือ "หนี้ตัวเอง" ที่ต้องทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น)

ตอนนี้ก็รู้จักสำนวนเกี่ยวกับ own และ owe กันดีแล้วนะครับ ลองนำไปฝึกใช้ในชีวิตประจำวันดูสิครับ แล้วจะใช้ได้คล่อง ๆ

คราวหน้า เดี๋ยวเรามาคุยกันต่อนะครับ ตอนนี้ครูขอตัวไปตรวจข้อสอบเด็กก่อน

เป็นกำลังใจนะครับ

Thursday, April 1, 2010

ทักทายกัน

ตอนนี้น้อง ๆ บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมพี่หายหน้า หายตาไปนาน ก็เพราะว่าช่วงนี้ที่อเมริกา มหาวิทยาลัยที่พี่สอนอยู่เขาปิดช่วงฤดูใบไม้ผลิประจำปีจ๊ะ เป็น spring break (ปิดย่อยช่วงฤดูใบไม้ผลิ) หรือจะเรียกว่า spring recess (recess ที่แปลว่า พัก อ่ะนะครับ) ก็ได้นะ ตอนนี้พี่ก็เลยตั้งหน้าตั้งตา เตรียมเขียนข้อความดี ๆ มีสาระการใช้ภาษาอังกฤษมาให้น้อง ๆ กันอีกนะครับ ติดตามกันได้จ๊ะ แล้วพี่จะเข้ามา update อีกนะ