About Me

My photo
ใครคือ Kru Dr. Gan: ครูคนหนึ่งที่รักการสอนหนังสือ Kru Dr. Gan อยู่ที่ไหน: ไป ๆ มา ๆ ระหว่างเมืองไทยกับสหรัฐอเมริกา Kru Dr. Gan สอนวิชาอะไรบ้าง: ภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม Kru Dr. Gan สอนใครบ้าง: น้อง ๆ มัธยมไปจนถึงนักศึกษาปริญญาเอก Kru Dr. Gan ทำอะไรอีกนอกจากสอน: ทำวิจัย เขียนบทความ ฯลฯ

Sunday, January 24, 2010

ภาษาอังกฤษในชีวิตจริง ๆ: ฝรั่งก็พูดผิดเป็นนะเออ

หวัดดีครับน้อง ๆ

วันนี้ครูมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง พอดีเมื่อวันก่อนนี้ ครูเปิดสถานีวิทยุฟังรายการเพลงเพลิน ๆ ฟัง ๆ ไปก็มีอะไรมาสะดุดหู แล้วทำให้นึกขึ้นได้ว่า เออ ... มาเล่านี้น้อง ๆ ที่อยากพูดภาษาอังกฤษเก่ง ๆ ฟังดีกว่า เรื่องมันก็มีอยู่ว่า ครูฟังรายการเพลงของสถานี 97.1 AMP Radio ที่จัดโดยคุณ Cason Daly (ดูรูปประกอบนะครับ)


น้อง ๆ บางคนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ MTV อาจจะเคยได้ยินชื่อ Carson Daly แต่บางคนอาจจะไม่เคยได้ยิน เอาสั้น ๆ นะ นาย Carson Daly เนี่ยก็เป็น DJ/VJ เคยจัดรายการทางช่อง MTV แล้วเขาก็ยังเป็นผู้ดำเนินรายการ หรือที่ภาษาอังกฤษเขาใช้กันว่า talk show host โดยรายการนี้มีชื่อว่า Last Call with Carson Daly ทางโทรทัศน์ช่อง NBC ด้วย

ตอนนี้นาย Carson ก็มาทำหน้าที่ DJ จัดรายการวิทยุตอนเช้า ๆ ประมาณ 6 โมงถึง 10 โมงเช้า ที่สถานีวิทยุ AMP Radio นี้ ช่วงนี้ทางรายการก็มีการเล่นเกมส์ตอบคำถามชิงรางวัล ให้นักฟังเพลงโทรเข้ามาตอบกัน จริงบ้าง เล่นบ้าง ถ้าใครตอบคำถามถูก ก็จะได้รับรางวัลเป็น iPod Nano ที่ได้รับการจารึกลายเซ็น (autographed) จากนักร้องที่ชื่อ Ke$ha ด้วย (เอ้าเอารูปประกอบไป) คนที่ร้องในอัลบั้มของ Flo Rida ในเพลง Right Round อ่ะ แล้วตอนนี้ก็มีเพลงที่เพิ่งออกเมื่อปีที่แล้วที่ชื่อ Tik Tok ไง น้อง ๆ ได้ฟังกันหรือยัง (ครูฟังจนเบื่อกับทางสถานีวิทยุที่นี่แล้ว ก็เล่นเปิดกันซะ)


กลับมาเข้าเรื่องต่อ คือคำถามที่ครูฟังวันนั้น ถามว่า When was the first iPod released? How many gigs does it have? Gigs ก็คือ กิ๊กกะไบต์ หรือ gigabytes (GB) ที่เป็นหน่วยการวัดแปลว่า พันล้านไบต์ หรือ สิบยกกำลังเก้า นั่นเอง

มาแปลคำถามกันก่อนสำหรับน้อง ๆ บางคนที่อาจจะยังงง ๆ กันอยู่ คำถามก็คือ iPod ตัวแรกที่ออกมาตีตลาดนั้น ออกมาเมื่อปีอะไร และมีขนาดความจุเท่าไร กี่ GB? น้อง ๆ รู้คำตอบหรือเปล่าครับ คำตอบก็คือปี 2001 กับ 5 GB ไง ใครตอบถูกบ้าง ตอบถูกเอารางวัล Ke$ha autographed iPod Nano ไปเลย (แต่ไปเอารางวัลกับคุณ Carson Daly นะ ครูไม่มีอ่ะ)

เท่าที่อ่านมายังไม่มีอะไรสะดุดหูใช่มะ ก็ครูยังไม่ได้เล่าเลย เรื่องที่สะดุดหูก็คือ มีผู้ฟังคนหนึ่งโทรเข้ามาตอบว่า 500 เม็กใช่ไหมคะ (เมกกะไบต์ ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กกว่า กิ๊กกะไบต์) คุณ Carson ก็บอกว่า ยังไม่ใช่ เอ้าลองทายอีกที คุณผู้ฟังก็ตอบว่า งั้นก็หนึ่งเมกก็แล้วกัน คุณ Carson ก็บอกไปว่า ยังไม่ใช่ เอางี้ละกัน ให้คุณผู้ฟังคนอื่นตอบบ้าง แล้วก็ใบ้ให้ด้วยนะว่า ความจุน่ะ “มากกว่าหนึ่งกิ๊กนะจ๊ะ” โดยคุณ Carson เขาพูดว่า “more bigger than one gigabyte” ครับ

ครูฟังตรงนี้แล้วก็สะดุดนิดหนึ่งอ่ะนะ เพราะว่าอะไร คือจริง ๆ แล้ว การใช้ขั้นกว่าของคำคุณศัพท์ (superlative adjectives) เนี่ย ตามหลัก grammar หรือหลักไวยกรณ์ภาษาอังกฤษ เราใช้ -er หรือเติม more อย่างเดียวก็พอแล้ว ไม่ต้องใส่ทั้งสองอย่าง และจริง ๆ ถ้าคำคุณศัพท์สั้น ๆ อย่าง big ก็จะใช้ bigger เลย ว่ากันตามกฏตรง ๆ แล้วก็จะไม่มี more big หากจะใช้ more ก็จะใช้กับคุณศัพท์ที่โดยมากมีสามพยางค์ขึ้นไป เช่น beautiful แปลว่า สวย พอ สวยกว่า ก็จะใช้ว่า more beautiful เป็นต้น

แต่ประเด็นที่ครูอยากจะชี้ให้น้อง ๆ เห็น จริง ๆ ไม่ได้อยู่ที่ Carson Daly จะใช้ superlative adjective ผิด ๆ แต่อยู่ตรงที่ ครูอยากให้น้อง ๆ ที่อยากพูดภาษาอังกฤษเก่ง ๆ มีความกล้า มีความเชื่อมั่นในตัวเอง คือเด็กไทยหลายคนค่อนข้างจะเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยกล้า กลัวว่าจะพูดผิดพูดถูก หรือพูดแล้วคนอื่นหรือเจ้าของภาษาจะฟังไม่รู้เรื่อง (ประเด็นนี้เดี๋ยวคราวหน้า ครูจะมาเล่าต่อ อีแมวเตือนกันมาได้นะครับ)

แต่ที่ครูเกริ่นมาทั้งหมดนี้ ก็เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่า ขนาดเจ้าของภาษา เติบโตมากับภาษาอังกฤษ หนำซ้ำ ยังมีอาชีพเป็นพิธีกร หรือ DJ/VJ อีก ยังพูดผิดไวยากรณ์แบบนี้ (ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม) เราซึ่งไม่ใช่เจ้าของภาษา แต่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองหรือภาษาที่สามสำหรับน้อง ๆ บางคน ก็ไม่จำเป็นต้องมีความรู้สึกเขินอายถ้าเราจะพูดผิดบ้าง เชื่อครู เราพูดผิดบ้าง ถูกบ้าง ถือว่าผิดเป็นครูครับ คราวหน้าเราจะได้จำได้และไม่พูดผิดแบบนั้นอีก ซึ่งถ้าเราบอกตัวเองบ่อย ๆ ว่า ถ้าผิดเราก็แก้ได้ แต่อย่าไปหยุดพูด อย่าไปอายแบบไม่กล้าพูดอีกแล้ว ครูเชื่อว่า สักวัน เมื่อน้อง ๆ ขยัน หัดพูดบ่อย ๆ (พูดถึงตรงนี้ ครูก็นึกถึง ชมรมภาษาอังกฤษตอนที่ครูเป็นนิสิตขึ้นมา เอาไว้คราวหน้าจะมาเล่าให้ฟังนะจ๊ะ) วันที่น้อง ๆ จะใช้ภาษาอังกฤษได้คล่องจะต้องมาถึงแน่

เป็นกำลังใจให้น้อง ๆ ครับ

ครู

No comments:

Post a Comment